3P กับการผลิตภาพยนตร์
1. Pre- production คือขั้นตอนของการเตรียมงาน ก่อนที่จะผลิตรายการจริง
- การวางแผน (Plan) คือการกำหนดทิศทางขั้นตอนในการทำงานว่า จะทำอะไร จะทำอย่างไร จะได้อะไร เป็นการตั้งคำถามและหาคำตอบหาข้อสรุปให้ใกล้เคียงกับคำถามได้มากที่สุด โดยมีหัวข้อไว้ตั้งคำถามหลักๆ 7 หัวข้อคือ 5W+2H
1. กำหนดวัตถุประสงค์ ทำไมจึงต้องทำ (Why? )
2. กำหนดเป้าหมาย จะทำอะไร (What?)
3. จัดลำดับขั้นตอน การทำงาน จะทำเมื่อไร (When?)
4. กำหนดวิธีการทำงาน จะทำอย่างไร (How?)
5. กำหนดสถานที่ ที่ไหน (Where?)
6. กำหนดผู้รับผิดชอบ แต่ละขั้นตอน ใคร (Who?)
7. กำหนดงบประมาณค่าใช้จ่าย เท่าไร (How much?)
1. กำหนดวัตถุประสงค์ ทำไมจึงต้องทำ (Why? )
2. กำหนดเป้าหมาย จะทำอะไร (What?)
3. จัดลำดับขั้นตอน การทำงาน จะทำเมื่อไร (When?)
4. กำหนดวิธีการทำงาน จะทำอย่างไร (How?)
5. กำหนดสถานที่ ที่ไหน (Where?)
6. กำหนดผู้รับผิดชอบ แต่ละขั้นตอน ใคร (Who?)
7. กำหนดงบประมาณค่าใช้จ่าย เท่าไร (How much?)
- การจัดทำเนื้อหา(Content)เมื่อตั้งคำถามและหาคำตอบได้แล้ว ก่อนที่จะผลิตรายการจำเป็นที่จะต้องมีเนื้อหาสำหรับใช้เขียนบทที่มีความถูกต้องชัดเจนและมีความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายเนื้อหาจะต้องไม่ส่งผลกระทบในทางที่เสื่อมเสียต่อสังคม มีสาระที่ให้ข้อคิดที่ดีมีประโยชน์ต่อผู้ชมโดยมีที่มาของแหล่งข้อมูล ด้วยวิธีต่างๆ
1 รวบรวม ค้นคว้าหาข้อมูลจาก
-เอกสาร ในห้องสมุด ผลงานวิจัย ฯลฯ
-บุคคล ที่เกี่ยวข้อง ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการฯลฯ
-สถานที่ โดยการออกไปสำรวจยังแหล่งพื้นที่จริง(Scout location)
2 วิเคราะห์ข้อมูลที่ค้นคว้ารวบรวมมา สรุปจัดทำเป็นร่างเนื้อหา
3 จัดทำเนื้อหาเรียบเรียงให้ถูกต้องเพื่อใช้เป็นแนวทางในการเขียบท
- เขียนบท (Script)บทเป็นเสมือนแผนที่เดินทางหรือแบบแปลนการก่อสร้าง หากมีรายละเอียดชัดเจนอ่านแล้วเข้าใจ ก็จะทำให้การถ่ายทำสะดวกและรวดเร็วขึ้น โดยมีลำดับขั้นตอนดังนี้
1. สร้างสรรค์รูปแบบการนำเสนอ(Creation)
2. กำหนดแก่นของเรื่อง (Theme)
3. กำหนดเค้าโครงเรื่อง(Plot/Treatment)
4. เขียนบท ร่าง (Outline script)
5. เขียนบทสมบูรณ์(Full script ,Shooting script,Screenplay)
6. ตรวจแก้ไขก่อนนำไปใช้ถ่ายทำ ควรให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในคณะทำงานได้รับรู้ เพื่อให้ทุก คนมีส่วนร่วมและเข้าใจตรงกัน
1. สร้างสรรค์รูปแบบการนำเสนอ(Creation)
2. กำหนดแก่นของเรื่อง (Theme)
3. กำหนดเค้าโครงเรื่อง(Plot/Treatment)
4. เขียนบท ร่าง (Outline script)
5. เขียนบทสมบูรณ์(Full script ,Shooting script,Screenplay)
6. ตรวจแก้ไขก่อนนำไปใช้ถ่ายทำ ควรให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในคณะทำงานได้รับรู้ เพื่อให้ทุก คนมีส่วนร่วมและเข้าใจตรงกัน
2. Production คือขั้นตอนของการผลิตรายการ มาปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม แม้จะไม่ตรงตามแผนที่คิดไว้ทั้งหมด แต่ก็ต้องพยายามเดินตามแผนให้ได้มากที่สุด(ยืดหยุ่นในการปฏิบัติแต่ยืนหยัดในหลักการ) ในการถ่ายทำนั้นควรเลือกใช้อุปกรณ์ให้มีความเหมาะสมกับรูปแบบของรายการได้ดังนี้
- การถ่ายทำในสถานที่(Studio)มีลำดับขั้นตอนการทำงานดังนี้
1. จัดทำฉาก ตกแต่งฉากตามที่ออกแบบไว้
2. จัดแสงให้ได้บรรยากาศตามบทและสภาพของฉาก
3. จัดติดตั้งไมโครโฟนตามจำนวนและจุดที่กำหนด
4. จัดวางตำแหน่งกล้องตามจุดที่กำหนดและทิศทางการเคลื่อนย้ายเปลี่ยน มุมและขนาด ภาพ
5. ซักซ้อมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งทีมด้านเทคนิค และผู้ที่มาร่วมในรายการให้มีความ เข้าใจตรงกันขั้นตอนเปิดรายการเป็นอย่างไรจะปิด รายการด้วยกล้องไหน
6. ลงมือถ่ายทำตามที่ได้ซักซ้อมไว้ ระหว่าง การบันทึกรายการ(ในกรณีที่ไม่ใช่รายการสด) หากไม่ถูกต้องจะต้องสั่งหยุด(Cut)ทันที ต้อง ควบคุม คุณภาพ ระดับเสียง ความถูก ต้องของ เนื้อหา
- การถ่ายทำนอกสถานที่(Outdoor)มีขั้นตอนดังนี้
1. จัดเตรียมอุปกรณ์ กล้องและเครื่องบันทึกภาพ ขาตั้งกล้อง โคมไฟและขาตั้งโคม ไมโครโฟน เครื่องชาร์ทแบตเตอรี่และวัสดุ (ม้วนวิดีโอเทป แบตเตอรี่ ฯ)
2. ประสานงานด้านธุรการ การเงิน พัสดุ ฯ
3. นัดหมายทีมงาน
4. เดินทางตามกำหนดนัดหมาย
5. ถ่ายทำตามบทในจุดที่กำหนด
3. Post -production คือขั้นตอนสุดท้าย เป็นการตัดต่อก่อนที่จะนำไปเผยแพร่ การตัดต่อลำดับภาพ หรือเป็นขั้นตอนการตัดต่อเรียบเรียงภาพและเสียงเข้าไว้ด้วยกันตามสคริปต์หรือเนื้อหาของเรื่อง ขั้นตอนนี้จะมีการใส่กราฟิกทำเทคนิคพิเศษภาพ การแต่งภาพการย้อมสี การเชื่อมต่อภาพ/ฉาก อาจมีการบันทึกเสียงในห้องบันทึกเสียงใส่เสียงพูดซาวน์บรรยากาศต่างๆ เพิ่มเติม อื่นๆ อาจมีการนำดนตรีมาประกอบเรื่องราวเพื่อเพิ่มอรรธรสในการรับชมยิ่งขึ้น ขั้นตอนนี้ส่วนใหญ่จะดำเนินการอยู่ในห้องตัดต่อแต่มีข้อจำกัดหลายอย่างเช่น การเพิ่มเทคนิคพิเศษต่างๆ ซึ่งต้องใช้เครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัยและซับซ้อนมากยิ่งขึ้นมีเฉพาะช่างเทคนิคที่เกี่ยวข้องและผู้กำกับเท่านั้น (ในบางครั้งลูกค้าสามารถเข้ารับชมหรือมีส่วนร่วมในการผลิต) ระยะเวลาในขั้นตอนนี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของบทและการบันทึกภาพ รวมถึงความยากง่ายและการใส่รายละเอียดต่างๆเพิ่มเติมของงานในแต่ละ THEME เช่น 3 วัน 7 วัน หรือมากกว่า 15 วันขึ้นไป
องค์ประกอบของขั้นการหลังการผลิต (Post-Production) มีดังนี้
1. การลำดับภาพ หรือการตัดต่อ (Editing) เป็นการนำภาพมาตัดต่อให้เป็นเรื่องราวตามบทวีดิทัศน์ โดยใช้เครื่องตัดต่อ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยการตัดต่อนี้มี 2 ลักษณะ คือ
1. Linear Editing เป็นการตัดต่อระหว่างเครื่องเล่น/บันทึกวีดิทัศน์ 2 เครื่อง โดยให้เครื่องหนึ่ง เป็นเครื่องต้นฉบับ (Master) และอีกเครื่องหนึ่งเป็นเครื่องบันทึก (Record) ในปัจจุบันไมนิยมใช้ แล้ว เนื่องจากการตัดต่อลักษณะนี้ต้องใช้ผู้ที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน และใช้เวลานานมาก
2. Non-Linear Editing เป็นการติดต่อโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เฉพาะ ซึ่งเป็นการตัดต่อที่ รวดเร็วและมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด
2. การบันทึกเสียง (Sound Recording) จะกระทำหลังจากได้ดำเนินการตัดต่อภาพตามบทวีดิทัศน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงทำการบันทึกเสียงดนตรี เสียงบรรยาย และเสียงประกอบลงไป
3. การฉายเพื่อตรวจสอบ (Preview) หลังจากตัดต่อภาพ และบันทึกเสียงเรียบร้อยแล้วจะต้องนำมาฉายเพื่อตรวจสอบก่อนว่ามีอะไรที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขหรือไม่
4. ประเมินผล (Evaluation) เป็นการประเมินรายการหลังการผลิต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น